ลีออน มัสก์ ประกาศขายหุ้น  หากใครมีการติดตามข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีจะเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้ CEO ของ tesla   หรือก็คือนาย  ลีออน มัสก์ ได้ออกมาหยั่งเชิงคนผ่านทาง Twitter โดยมีการทำโพลสอบถามคนในโลกออนไลน์ว่าถ้าหากว่าเขานั้นจะทำการขายหุ้นเทสล่าออกไปนั้นจะมีคนให้ความสนใจ

ในการซื้อหุ้นหรือไม่ซึ่งหลังจากที่ ลีออน มัสก์ มีการประกาศออกมาแบบนี้ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมากโดยหุ้นที่ทาง Test น่าจะมีการออกมาจำหน่ายให้นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์และคนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยกับการที่ทางจะออกมาขายหุ้นในครั้งนี้นั่นเอง

    มีการรายงานข่าวออกมาจากทางสำนักข่าว CNN ระบุว่าหลังจากที่ทาง CEO ของเทสล่าได้มีการขายหุ้นออกมาบางส่วนไปแล้วก่อนหน้านี้ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก

ซึ่งหลังจากที่มีการเทขายหุ้นออกไปทางด้านลีออน มัสก์  ของเทสล่าได้มีการขายหุ้นออกมาบางส่วนไปแล้วก่อนหน้านี้ได้รับผลตอบรับที่ดีมากซึ่งหลังจากที่มีการเทขายหุ้นออกไปทางด้านก็ มีการออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่งโดยครั้งนี้เขาได้ออกมาเคลื่อนไหวด้วยการทำแบบแสดงความคิดเห็นมีการสำรวจบนโลกทวิตเตอร์

สอบถามคนในทวิตเตอร์เกี่ยวกับเรื่องของหุ้นอีก 10 เปอร์เซ็นต์ที่เขาอยากจะมีการนำออกมาขายซึ่งเป็นหุ้นของบริษัทเทสล่าโดยทางด้านลีออน มัสก์ เป็นผู้ถือครองหุ้นนี้อยู่ว่าเขาควรจะนำออกมาขายดีหรือไม่

       ซึ่งหลังจากที่มีการโพสต์ออกไปก็มีคนเข้ามาทำผลโหวตให้กับลีออน มัสก์เป็นจำนวนมากโดยผลโหวตนั้นสรุปได้ว่ามีเห็นด้วยมากกว่า 58 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวซึ่งแน่นอนเชื่อว่าจากผลสำรวจที่ออกมานี้จะทำให้ลีออน มัสก์  เตรียมพร้อมที่จะออกมาขายหุ้นเทสล่าเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนโดยหลายคนนั้นมีการคาดการณ์กันว่าสาเหตุที่ทางลีออน มัสก์จำเป็นที่จะออกมาขายหุ้นของตนเองนั้น

ก็เพราะว่ามีหุ้นบางส่วนของเขากำลังที่จะหมดอายุภายในเดือนสิงหาคมปีหน้านี้และที่สำคัญก็จำเป็นที่จะต้องหาเงินก้อนโตเพื่อไปจ่ายภาษีให้กับทางรัฐบาลลีออน มัสก์ซึ่งถึงแม้ว่าการจ่ายเงินภาษีให้รัฐบาลนั้นจะเป็นการจ่ายเงินภาษีตามปกติของคนที่เปิดบริษัทแต่ก็ต้องใช้เงินสดเป็นจำนวนมากซึ่งแน่นอนว่าลีออน มัสก์  จำเป็นที่จะต้องหาเงินสดเพื่อไปทำการจ่ายภาษีเพราะเงินที่มีอยู่นั้นอาจจะไม่เพียงพอเนื่องจากว่าเงินส่วนใหญ่ของลีออน มัสก์ จะมาในรูปแบบของการถือหุ้นของบริษัทเทสล่านั่นเอง 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  gclub ฝาก ขั้นต่ำ 20

         ที่จังหวัดอุดรธานี ได้มีนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง คิดค้นธุรกิจแนวใหม่ออกมา ซึ่งธุรกิจที่ทำนี้สร้างรายได้ให้กับเขาเป็นอย่างมาก โดยธุรกิจที่ว่านี้เป็นการนำแมลงต่างต่างที่คนไทยชื่นชอบกิน ที่มีขายตามรถเข็น เป็นแมลงทอดชนิดต่างต่าง นำมาดัดแปลงเป็นแมลงทอดอบกรอบ แล้วนำใส่แพ็คเก็จอย่างดี  ทำเป็นสินค้าสำหรับส่ง่ขายต่างประเทศ 

        นับได้ว่าแนวความคิดนี้เป็นแนวความคิดที่แปลกใหม่เป็นอย่างมากถึงแม้ว่า แมลงทอดนี้จะมีขายในประเทศไทยมานานแล้วและคนไทยส่วนใหญ่ก็นิยมกินกัน หรือแม้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมาเห็นแมลงทอดกรอบนี้ บางคนก็ทดลองกินเพราะความแปลก แต่เมื่อได้ลองแล้วก็มักจะติดใจกับความอร่อยเป็นอย่างมาก ซึ่งด้วยความอร่อยและมีคนนิยมกินกันเยอะนั่นเองทำให้ได้มีนักธุรกิจคนหนึ่ง

         ซึ่งเขาเป็นคนจังหวัดอุดรธานี ได้มีแนวความคิดที่จะทำสินค้าส่งออกขายยังต่างประเทศ ได้นำสูตรของแมลงทอดนี้มาทำการอบจนกรอบ แล้วแพ็คอย่างดีส่งขายไปยังประเทศต่างต่างในแทบยุโรป และทางแทบเอเชีย  รวมถึงยังมีการส่งขายผ่านระบบร้านค้าออนไลน์ สร้างรายได้ให้กับเจ้าของแนวความคิดนี้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะใช้ระยะเวลาเพียงแค่ สองปี เท่านั้นเขาก็สามารถขยายกิจการได้แล้ว ซึ่งในขณะนี้เขาสามารถสร้างโรงงานการผลิต ได้ถึง สองโรงงานด้วยกันเพื่อจะได้เร่งผลิตสินค้านี้ส่งออก 

      สำหรับแนวความคิดนี้ ทางด้านเจ้าของธุรกิจนี้มีแนวความคิดมาจาก ความต้องการของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ ปัจจัยพื้นฐานที่มนุษย์ต้องการมากที่สุดก็คือ อาหารนั่นเอง ดังนั้นการทำของกินขาย จึงเป็นสินค้าที่สามารถขายได้ง่ายมากที่สุด และเมื่อเล็งเห็นสินค้าที่มีความแตกต่างจากคนอื่น สิ่งนี้จะเป็นตัวดึงดูดลูกค้าเพราะสินค้าที่ไม่เหมือนใคร

         สำหรับนักธุรกิจที่คิดสินค้าแมลงทอดอบกรอบนี้ มีชื่อว่า นายสะไกร   อินทร์นาง ซึ่งแต่เดิมนั้นเขาทำงานเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างและทำธุรกิจด้านอสังหาฯ แต่เมื่อเห็นว่าธุรกิจด้านนี้มีการแข่งขันสูง และในอนาคตธุรกิจประเภทนี้อาจจะซบเซาลงได้ ดังนั้นเขาจึงได้พยายามหาธุรกิจใหม่ๆ มารองรับกับอาชีพของตัวเอง จนมาเจอกับธุรกิจการขายแมลงทอดอบกรอบนี้เอง 

        สำหรับสินค้านี้จะมีขายผ่านทางออนไลน์ในไทยและยังมีการดำเนินการส่งออกไปขายยังต่างประเทศ  ซึ่งการก่อตั้งธุรกิจนี้ทำมาเป็นระยะเวลากว่าสองปีแล้ว โดยทำมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560  และในตอนนี้ก็มีการจัดตั้งเป็นบริษัทแล้ว โดยใช้ชื่อว่า แมลงรวย ในขณะนี้ตลาดการขายสินค้านั้นสำหรับการส่งออกมีการส่งออกถึง 70 % ในขณะที่ขายในไทยนั้นเพียงแค่ 30 % เท่านั้น

ขอขอบคุณที่ให้การสนับสนุนโดย.    gclub ฝาก ขั้นต่ำ 20