มาทำความรู้จักคู่แข่งรายใหญ่ของ Shutter Stock 

    คู่แข่งรายใหญ่ของ Shutter Stock   คงไม่มีสายกราฟิกหรือสายอาร์ตคนไหนไม่รู้จักแพลตฟอร์มอย่าง Freepik แน่นอน! ในบทความนี้ เราจะพาไปทำความรู้จักกับสตาร์ทอัพที่ได้ชื่อว่า เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปเลยก็ว่าอะไร จะน่าสนใจขนาดไหน ลองมาดูกันเลย ก่อนอื่นต้องบอกว่า

      Freepik คือ แพลตฟอร์มยอดนิยมของเหล่าคนที่นิยมทำงานด้านกราฟิกหรืองานอาร์ตอื่นๆ สำหรับดาวน์โหลดรูปต่าง ๆ มาใช้ ไม่ว่าจะเป็นรูปถ่าย, แบ็กกราวนด์, ไอคอน หรือแม้กระทั่งรูปแนว Vector ก็มีให้เลือกมากมาย นอกจากจะมีฟังก์ชันให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดรูปได้แล้ว 

Freepik ยังให้ผู้ใช้สามารถนำรูปภาพของตัวเองมาอัปโหลด เพื่อขายใน Freepik ได้อีกด้วย ดังนั้นขอเล่าย้อนไปถึงเรื่องราวจุดเริ่มต้นของ Freepik สักหน่อย

          จุดเริ่มต้นของธุรกิจนี้มันเริ่มมาจากไอเดียของคุณ Alejandro Blanes ที่เห็นว่าตอนนั้น ยังไม่มีแพลตฟอร์มไหน อนุญาตให้เหล่ากราฟิกดีไซเนอร์สามารถเข้าไปค้นหารูปที่ตัวเองต้องการได้แบบ ฟรี ๆ เลยสักเว็บ พอมองเห็นปัญหานี้ เขาและเพื่อนของเขาอีกสองคนก็เห็นด้วยเพราะมันเป็นไอเดียที่ดีมาก แต่ Freepik ก็ไม่ใช่บริษัทแรกในรูปแบบนี้

          ก่อนหน้านั้นยังมีอีกหนึ่งแพลตฟอร์มรายใหญ่อย่าง Shutterstock ที่ให้บริการคล้ายๆ กัน แต่สิ่งที่ทำให้ Freepik สามารถเข้ามาแย่งส่วนแบ่งในตลาดได้ก็เป็นเพราะว่า ภาพกว่า 40% ใน Freepik สามารถดาวน์โหลดไปใช้ได้ฟรี แค่ต้องใส่เครดิตให้เท่านั้น แตกต่างจาก Shutterstock ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มรายใหญ่ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ แต่รูปภาพ วิดีโอ และเพลงในแพลตฟอร์มนี้จะคิดค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทำให้บางคนเลือกที่จะหันไปใช้งานใน Freepik แทนนั่นเอง

         และแม้ว่า Freepik จะเปิดตัวมาทีหลัง Shutterstock ถึง 7 ปี แต่ Freepik ก็ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงขั้นบริษัทชั้นนำระดับโลก ก็ยังใช้งาน Freepik ไม่ว่าจะเป็น NASA, Amazon, FedEx, Microsoft หรือ Spotify แต่ก็มีคนหลายคนรวมถึงเราเองตอนแรกๆแอบสงสัยว่า แล้ว Freepik ได้รายได้จากไหนหละ ถ้าบอกว่าให้ดาวน์โหลดไปใช้ได้ฟรีๆ?

          สุดท้ายพอลองค้นหาข้อมูล ก็ได้คำตอบก็คือ ทาง Freepik มีนโยบายให้สมัครสมาชิกเพื่อแลกกับสิทธิ์ในการดาวน์โหลดภาพได้ถึง 100 รายการต่อวัน และผู้ใช้งานยังสามารถดาวน์โหลดภาพพิเศษ หรือที่เรียกว่าภาพพรีเมียมไปใช้งานได้โดยไม่ต้องใส่เครดิต ซึ่งก็ต้องยอมรับในความคิดและไอเดียของผู้ก่อตั้งจริงๆ ว่า ทำธุรกิจออกมาได้โดนใจและถูกจุดสำหรับคนที่จะใช้บริการจริงๆ เพราะในเชิงธุรกิจก็คือ สรุปแล้ว จุดเริ่มต้นของธุรกิจนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น Pain Point ของผู้บริโภคนั่นเอง!

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    Ufabet เข้าสู่ระบบ